ศูนย์แลผู้สูงอายุสุขาภิบาล3 ผู้ป่วย รับเฝ้าไข้ตามบ้าน โรงพยาบาล ดูแลเด็กตามบ้านและผู้สูงอายุ จัดหาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ ดูแลผู้ป่วยสุขาภิบาล3แม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก เจ้าหน้าที่เราผ่านการฝึกอบรม
รับดูแลผู้ป่วยตามบ้านสุขาภิบาล3
รับดูแลคนชราตามบ้านสุขาภิบาล3
รับดูแลคนแก่ตามบ้านสุขาภิบาล3
รับเฝ้าไข้ตามบ้านสุขาภิบาล3
สุขาภิบาล3ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ไหนดี
บริการดูแลผู้สูงอายุสุขาภิบาล3บริการดูแลผู้ป่วย รายวัน รายเดือน เฝ้าไข้ผู้ป่วยที่บ้าน ที่โรงพยาบาล รับเฝ้าไข้ 24 ชั่วโมง บริการส่งพยาบาลพิเศษ เฝ้าไข้ ดูแลผู้สูงอายุ ประจำบ้าน ราคาเป็นกันเอง รับเฝ้าไข้ 24 ชม. บริการด้วยใจ
งานดูแลผู้สูงอายุตามบ้านสุขาภิบาล3
งานดูแลผู้สูงอายุตามบ้านสุขาภิบาล3
อัตราค่าบริการดูแลผู้สูงอายุสุขาภิบาล3
รับจ้างดูแลผู้สูงอายุรายวันสุขาภิบาล3
หาคนอยู่เป็นเพื่อนคนแก่สุขาภิบาล3
บริการจัดส่งพนักงานดูแลผู้สูงอายุสุขาภิบาล3
รับดูแลผู้สูงอายุตามบ้านราคาสุขาภิบาล3
1. เรื่องกินเรื่องใหญ่
ผู้สูงอายุส่วนใหญ่รับประทานอาหารได้น้อยลง เนื่องจากอวัยวะในร่างกายเสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะระบบย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืดเฟ้อ รวมถึงปัญหาช่องปากและฟัน ส่งผลให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด นอกจากนี้ผู้สูงวัยมักดื่มน้ำน้อย และขาดการออกกำลังกาย จึงเป็นสาเหตุของอาการท้องผูก ดังนั้นอาหารของผู้สูงอายุจึงควรเป็นอาหารที่อ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย
2. ขยับร่างกายวันละนิดชีวิตยืนยาว
ริ่มตั้งแต่จัดกิจกรรมออกกำลังกายที่ปลอดภัยเหมาะสมกับสภาพร่างกายและคอยให้ความช่วยเหลือ เช่น ช่วยพยุงให้ขยับกายบริหารเบาๆ พาเดินหรือเดินแกว่งแขนช้าๆ ช่วยยืดคลายกล้ามเนื้อ ให้ได้ทุกวันอย่างน้อยวันละ 10-20 นาที และค่อยๆเพิ่มความหนักและระยะเวลาขึ้นเรื่อยๆ หากผู้สูงวัยยังแข็งแรงอยู่ ควรออกกำลังกายให้ครบทั้ง 3 รูปแบบ คือ 1.คาร์ดิโอ (เดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แอโรบิคเบาๆ) 2.เล่นเวท
เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และ 3.ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและฝึกการทรงตัวเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว เพิ่มเติมตามความเหมาะสมครั้งละอย่างน้อย 30 นาที สัปดาห์ละ 3-5 วัน
3. สุขอนามัยที่ดี
ลด ละ เลิกสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า พฤติกรรมเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือการหกล้ม ดูแลควบคุมโรคประจำตัวตามแพทย์แนะนำ และพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรงดีควรตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองโรคประจำวัย ของผู้สูงอายุ เช่น สมองเสื่อม ซึมเศร้า กระดูกพรุน ภาวะการมองเห็นหรือการได้ยินผิดปกติ ภาวะขาดสารอาหาร เป็นประจำทุกปี
4. การขับถ่ายก็สำคัญ
ผู้สูงอายุควรหมั่นสังเกตการขับถ่ายของตัวเองว่ามีปัญหาท้องผูก ท้องผูกสลับท้องเสียบ่อยๆ อุจจาระมีมูกเลือด หรือมีปัสสาวะอุจจาระเล็ดหรือไม่ ทั้งนี้ไม่ควรอายที่จะบอกปัญหาการขับถ่ายกับผู้ดูแลหรือคนใกล้ชิดเพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง ซึ่งอาจจะสามารถแก้ไขได้ และผู้สูงวัยจะได้กลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีอีกครั้ง

5. ความสะอาด
ภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุไม่ค่อยแข็งแรงมักติดโรคได้ง่าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้หรือมีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ผู้ดูแลควรใส่ใจดูแลฟัน เล็บ ผิวหนัง ผมและซอกหลืบต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงบริเวณอวัยวะเพศและก้น ไม่ควรปล่อยให้อับชื้นและเกิดการระคายเคือง อาหารก็สำคัญ ไม่ควรนำอาหารค้างคืนมารับประทาน หรือเอายาเก่าๆ ที่อาจหมดอายุมาใช้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
6. อุปกรณ์ช่วยเดิน
ควรใช้อุปกรณ์ช่วยทรงตัวตามที่แพทย์แนะนำ อุปกรณ์ควรมีขนาดเหมาะกับผู้สูงวัยแต่ละท่าน รองเท้าควรเลือกที่มีความนุ่ม กระชับเท้า หุ้มส้นหรือมีสายรัดข้อเท้าไม่ให้หลุดง่าย และพื้นมีดอกยางยึดเกาะได้ดีและไม่ลื่น อย่าอายที่จะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยทรงตัวหากต้องไปนอกบ้านหรือเดินไกลๆ เพราะจะช่วยลดอุบัติเหตุ และเป็นผู้ช่วยทำให้ผู้สูงวัยสามารถออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ ไม่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง
7. ไม่ละเลยเรื่องยาและการพบแพทย์
ผู้ดูแลควรจัดยาให้ง่ายต่อการรับประทาน และใส่ใจให้ผู้สูงอายุรับประทานยาให้ตรงตามที่แพทย์แนะนำ ห้ามหยุดยาเอง และพบแพทย์ตามนัดอย่างเคร่งครัด ควรจดจำยาที่ผู้สูงอายุใช้ให้ได้และแจ้งรายการยาแก่แพทย์ทุกท่าน ทุกโรงพยาบาลที่ไปพบเพื่อป้องกันการจ่ายยาซ้ำซ้อน
8. ปล่อยวาง พักผ่อน และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
ความเครียด กังวล คิดลบ เป็นสารพิษที่รบกวนการทำงานของเซลล์สมอง ผู้สูงอายุและผู้ดูแลควรพยายามหาวิธีผ่อนคลายจิตใจ เลือกการพักผ่อนในแบบที่ชอบ เช่น เดินทาง ท่องเที่ยว อ่านหนังสือ ฟังเพลง เต้นรำ หรือทำงานอดิเรก
9. บ้านเป็นมิตรกับผู้สูงวัย
การจัดเตรียมบ้านให้เหมาะกับผู้สูงอายุก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม ภายในบ้านไม่ควรมีพื้นต่างระดับเพื่อป้องกันสะดุดล้ม พื้นห้องน้ำไม่ลื่น และควรแยกส่วนเปียกส่วนแห้งออกจากกัน ติดตั้งราวจับในห้องน้ำและในบริเวณที่ผู้สูงอายุใช้บ่อยๆ นอกจากนี้ยังควรดูแลให้แสงสว่างพอเพียง ปลั๊กและสวิตช์ควรไฟอยู่ในระดับที่ผู้สูงวัยเอื้อมถึงง่ายๆ โดยเฉพาะในห้องนอน
10. ความอบอุ่น
กำลังใจและความรักในครอบครัวสำคัญต่อผู้สูงอายุอย่างมาก หากอยู่บ้านเดียวกันควรมีกิจกรรมร่วมกัน ไม่แยกให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตแบบ “คนแก่” อย่างโดดเดี่ยว หาโอกาสพาลูกหลานไปเยี่ยมผู้สูงวัยที่อยู่เพียงลำพังอย่างสม่ำเสมอ พาท่านไปทำกิจกรรมที่คนหลายๆ วัยสามารถทำร่วมกันได้ ที่สำคัญควรใส่ใจในการ “รับฟัง” ท่านอย่างให้เกียรติ เพราะท่านก็ยังต้องการรู้สึกเป็นที่ยอมรับ และรู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่าในสายตาของคน
ในครอบครัว

สุขาภิบาล3
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกคลองตัน จุดตัดกับถนนเพชรบุรี ถนนพัฒนาการ และถนนสุขุมวิท 71
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกรามคำแหง จุดตัดกับถนนพระราม 9
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกหมู่บ้านเสรี (ซอยรามคำแหง 24)
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกวัดเทพลีลา (ซอยรามคำแหง 39)
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกมหาดไทย (ซอยรามคำแหง 65)
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกรามคำแหง 26 (ซอยรามคำแหง 26)
ดูแลผู้ป่วยตามบ้านใกล้ฉันแยกลำสาลี ถนนศรีนครินทร์